แม้ว่าจะโดนกระแสตีกลับถล่มอย่างหนักหน่วง ในโลกอินเทอร์เน็ตหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะเรื่องธุรกรรมทางการเงิน และระบบ Loot Boxes ซึ่งจู่ ๆ ก็ไม่ดร็อปมาให้บรรดาแฟนเกมที่เล่นผ่านเซิร์ฟเวอร์ของเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ แต่ Diablo Immortal ก็ยังฝ่าพายุคำวิจารณ์ไปได้แบบสวย ๆ แถมกวาดรายได้เข้ากระเป๋าไปกว่า 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 850 ล้านบาท) ในเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ พร้อมยอดดาวน์โหลดผ่านระบบ iOS และ Android รวมกันสูงเป็นประวัติการณ์ถึงกว่า 8 ล้านครั้ง
แม้ Diablo Immortal ในฐานะเกมภาคแยกอาจทำให้แฟนเกมเริ่มอดเป็นห่วงไม่ได้ เกี่ยวกับเกมภาคหลักอย่าง Diablo 4 ที่ทาง Blizzard เคยให้คำมั่นไว้ว่าจะไม่มีเรื่องเติมเงินมาเกี่ยวข้อง หรืออย่างน้อยก็จะมาในรูปแบบอื่น แต่จากรายงานล่าสุดกลับออกมาในทิศทางตรงกันข้าม เมื่อระบุว่ากระแสตีกลับทั้งหลาย ไม่มีผลต่อรายได้ของไอพีภาคใหม่จากแฟรนไชส์ action RPG ในตำนานที่พุ่งกระฉูดในเวลาอย่างรวดเร็วแค่สองสัปดาห์เท่านั้น
