ถึงแม้ว่า ไมอามี่ ดอลฟินส์ พวกเขาจะเปลี่ยนผันเฮดโค้ชจาก ไบรอัน ฟลอเรส มาเป็น ไมค์ แม็คแดเนียล แต่ถ้าว่า จอช โบเยอร์ ยังคงทำงานเป็นโค้ชทีมรับของ ไมอามี่ ดอลฟินส์ ต่อไปในซีซั่น 2022 เช่นเดิม
สำหรับแฟรนไชส์อื่น ๆ ถ้าหากว่ามีการเปลี่ยนเฮดโค้ช แน่นอนว่าพวกเขาก็คงจะดึงทีมงานสต๊าฟเก่าเข้ามาช่วยงาน แต่สำหรับ ไมค์ แม็คแดเนียล หัวหน้าโค้ชป้ายแดงของ ไมอามี่ ดอลฟินส์ ก็ยังคงให้โอกาส จอช โบเยอร์ โค้ชทีมรับวัย 45 ปี ทำงานกับ ไมค์ แม็คแดเนียล ในซีซั่นหน้า หลังจากที่ผลงานของ จอช โบเยอร์ พาทีมคว้าชัยชนะติดต่อกันถึง 7 เกมในซีซั่นที่ผ่านมา และนี่คือผลงานที่เด่นชัดมากพอของ จอช โบเยอร์ ที่จะได้ทำงานต่อที่ ไมอามี่ ดอลฟินส์ ภายใต้การนำทัพของเฮดโค้ช ไมค์ แม็คแดเนียล
จอช โบเยอร์ ได้รับการผลักดันจาก ไบรอัน ฟลอเรส หัวหน้าโค้ชคนเก่า ซึ่งเจ้าตัวเข้ามาทำงานให้กับ ไมอามี่ ดอลฟินส์ ในปี 2019 ในฐานะโค้ชคอร์เนอร์แบ็กและผู้ประสานงานเกมป้องกัน จนกระทั่งในปี 2019 ขึ้นมารับงานเป็นโค้ชทีมรับอย่างเต็มตัวจนถึงปัจจุบันนี้ ถึงแม้จะเปลี่ยนเฮดโค้ชคนใหม่เข้ามาทำงาน จอช โบเยอร์ ก็ยังคงได้รับโอกาสเป็นโค้ชทีมรับของ ไมอามี่ ดอลฟินส์ เช่นเดิม
และการทำงานต่อเนื่องของ จอช โบเยอร์ ก็คงจะเป็นการพัฒนาศักยภาพของ เจแลน ฟิลลิปส์ “เอ็ดจ์ รัชเชอร์” รุคกี้ และ เจวอน ฮอลแลนด์ ดีเฟนซีฟแบ็ค ที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแน่นอนว่าเกมรับของ ไมอามี่ ดอลฟินส์ ภายใต้การดูแลงานของ จอช โบเยอร์ พวกเขามีเกมป้องกันอยู่อันดับที่ 15 ของลีก ในซีซั่น 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างเกมป้องกันที่อยู่ในขั้นยอดเยี่ยมสำหรับผลงานของ จอช โบเยอร์
